บิตคอยน์กับบ้าน

เมื่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ชนกับบิตคอยน์: การปฏิวัติเงียบที่กำลังเกิดขึ้นในระบบสินเชื่อบ้านสหรัฐ
ฉันดื่มชาโรแมนซ์ตอนเที่ยงคืน เห็นกราฟ BTC/USD เพิ่มขึ้น 2.2% จากข่าว: บิล พูลเต ผู้อำนวยการ FHFA และลูกหลานของมหาเศรษฐีอสังหาฯ คนใหม่ เปิดประตูให้พิจารณาใช้บิตคอยน์ในการประเมินสินเชื่อบ้าน
ยังไม่ใช่หลักประกันโดยตรง — เพียงอยู่ระหว่างการพิจารณา — แต่คำว่า ‘พิจารณา’ เองก็ทำให้กระเป๋าคริปโตทุกใบในอเมริกาสะเทือน
“พวกเขาไม่ถามว่าเราใช้บิตคอยน์เป็นเงินได้อย่างไร…แต่ถามว่า เราจะไว้วางใจมันในฐานะหลักฐานความมั่งคั่งได้อย่างไร”
คำถามนี้ทำให้ฉันตระหนัก
ผู้สร้างกฎเกณฑ์ที่ไม่มีใครเคยได้ยินชื่อ
ขอแนะนำสองชื่อที่คุณอาจไม่มีทางรู้จัก: เฟเนียเม และ เฟรดดี้แมค
พวกเขาไม่ใช่ธนาคาร — แต่เป็นบริษัทสนับสนุนจากรัฐบาล (GSE) ซื้อสินเชื่อบ้านจากธนาคารรายย่อย เพื่อให้เหล่านี้สามารถปล่อยกู้ต่อไปได้ โดยรวมแล้วครอบคลุม ~70% สินเชื่อบ้านในสหรัฐฯ
ตอนนี้ลองจินตนาการว่าพวกเขาบอก: *“เอาล่ะ…ลองอนุญาตให้ผู้คนนำ BTC มาเป็นหลักประกันแทนเงินสดได้มั๊ย?”
- ฟังดูแปลกหรือเปล่า? ก็กำลังเกิดขึ้นจริง ๆ
มันไม่ใช่วงจรฮype อีกต่อไป
หลายคนมองว่านี่แค่นำเสนอ ‘คริปโตเข้ามาในระบบการเงิน’ อีกครั้ง — และแน่นอน มี FOMO เกิดขึ้นแล้ว แต่มองลึกเข้าไป:
- บิล พูลเตไม่ใช่อัยการธรรมดา — เขาลงทุนมากกว่า \(500k–\)1M ใน BTC และ SOL โดยตรง
- เขาสนับสนุนคริปโตมาตั้งแต่ปี 2019
- และเขาถูกแต่งตั้งโดยทรอมป์ในสมัยที่สอง → การเปลี่ยนมุมมองทางนโยบายเร็วนี้ไม่นานแล้วกลายเป็นเรื่องจริง
บทบาทของผู้นำที่ ‘มีเส้นเลือดเดียวกับธุรกิจนี้’ ก็คือความแตกต่าง คำถามตอนนี้ไม่อยู่ที่ ‘คริปโตจะเข้ามาไหม’ — มันอยู่ที่ ‘รวดเร็วแค่ไหนในการแทรกซึมเข้าระบบเดิมๆ’ ซึ่งสร้างบนสมมติฐานแบบเก่าๆ เรื่องสภาพคล่อง สภาพเสถียรภาพ และความไว้วางใจ
นายหน้าเอกชนเร่งแซงหน้า—และเสียราคาเอง
ขณะ FHFA พะวงเรื่องนโยบาย, มีบางกลุ่มนำหน้าไปแล้ว:
- Milo Credit: สินเชื่อบ้านรองรับคริปโต สูงถึง LTV 100%
- Figure Technologies, เจ้าของอดีตรองประธาน Sofi Mike Cagney: พยายามปล่อยสินเชื่อมูลค่า $20M+ โดยใช้อาวุธจากครि�ปโตเป็นหลักประกัน
- Ledn: กู้เงินดอลลาร์โดยนำ BTC เป็นหลักประกันได้ถึง LTV 50% โดยดอกเบี้ยสูงกว่าปกติก็เพราะขาดการรองรับจาก GSEs, การขายซ้ำในตลาดรอง (secondary market) n n n เม็ดเดียว? ธุรกิก่อนมาตรฐาน: อ่อนไหวและเสียงดัง—เหมือนโปรโทไทป์ก่อนมาตรฐานชัดเจนครับ n n ## “ราคา” จะหมายความอะไรสำหรับคริปโต? n n หากเคยพยายามอธิบาย Bitcoin ในธนาคาร…คงเข้าใจยากเมื่ออายุงานถาม: *“แล้ว…ตอนนี้มันมีค่าไหม?” n n ความจริง? คนใด ๆ ก็ไม่มีคำตอบแน่นอน—not evenประธานเฟดหรือโมเดลดาวเคราะห์ของการลงทุนมูลค่ายืนหยุด เช่น พันธบัตรหรือหุ้น. n n ในระบบนี้ มี haircuts: หากทรัพย์สินราคา \(500k, กรอบความผันผวนทำให้มองเห็นศักยภาพขาดหายไป \)30k, ธนานำคำแนะนำเพียง $350k มาคำนึง n n เช่นเดียวกับ BTC—but haircut จะเท่าไหร่วัดจากอะไร? n n การตอบคำถามอยู่ภายใต้อะไร? เช่นประวัติก้อนทองคำระยะยาว, การเคลื่อนไหวสะอาด ๆ จะได้น้ำหนักมากกว่านายหน้ายืดน้ำยาโจรกรรมแม้มูลค่ายอดเยี่ยมน้อยลง n n Irony? เราบอกเสมอว่าครि�ปโต = “เงินแบบกระจายอำนาจ” but now we’reขอให้องค์กรควบคุมตรวจสอบความชอบธรรมโดยเครื่องหมายแบบรวมศูນย์ (centralized debt systems) n n ## moment of clarity in chaos
There was a time I panicked when BTC dipped below $60k — sold everything at loss — then watched it soar again while hiding under my blanket like an anxious child. Today? I still feel fear—but I no longer mistake panic for insight. This moment—the moment where digital assets step off the trading floor and onto American front porches—is not about price targets or pump cycles. It’s about trust architecture being rewritten. Bitcoin isn’t becoming another investment vehicle. It’s becoming part of America’s financial nervous system—one thread among many that now includes code, consensus algorithms, and cryptographic signatures instead of paper deeds alone. And yes—I think that’s beautiful. But also dangerous. Because when emotion drives adoption faster than understanding does… history repeats itself.
“The greatest risk is not falling behind technology—but believing it has changed everything before knowing what it truly means.” So here’s my quiet request: Let us stop chasing narratives. Let us begin measuring impact. Let us track how many homes were actually financed using crypto—not just promises made online. Let us look at loan default rates among bitcoin-backed borrowers over five years. And only then—let us decide whether this revolution needs our heart… or our head more. You’ve survived past bubbles because you stayed calm. Now survive this one by staying curious. What was your last moment of irrational hope? Share below—the wisdom grows stronger when shared.*