สแตบล์คอยน์กับดอลลาร์

ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับเสถียรภาพดิจิทัล

ผมเคยเห็นนักลงทุนหลายคนมองสแตบล์คอยน์เหมือนทองคำดิจิทัล—ปลอดภัย มั่นคง ไม่ต้องกังวลกับความปั่นป่วน แต่ความจริงที่หนาวเหน็บคือ มันไม่ใช่ทองคำ มันคือคำพูดบนกระดาษที่ลอยอยู่ในโลกของอัลกอริธึม

รายงานจาก Minsheng Securities ชี้ชัด: สแตบล์คอยน์ไม่สามารถช่วยดอลลาร์จากวิกฤตความเชื่อมั่นได้—อย่างน้อยในระยะใกล้นี้ การเติบโตของมันเกิดจากความคาดหวังและการซื้อขายคริปโตเท่านั้น ไม่ใช่การยอมรับในโลกแห่งความเป็นจริง

สแตบล์คอยน์ทำไมถึงไม่มีสถานะเป็นทรัพยานสำรอง?

ทองคำมีข้อจำกัด มันผลิตได้แค่นี้ หากินยากกว่า สแตบล์คอยน์กลับขึ้นอยู่กับพื้นฐานการสนับสนุนมัน และมันก็แทบทุกครั้งที่คลุมเครือ

ผมตรวจสอบรายงานสำรองหลายฉบับในงานของ CoinMetrics เมื่อพบว่าบางโทเค็นที่บอกว่า ‘ครบถ้วน’ ก็แท้จริงแล้วขาดเงินสดเพียงพอ หรือเลวร้ายกว่านั้นคือถือสินทรัพย์เสี่ยงที่แฝงตัวมาในรูปแบบสภาพคล่อง

เหมือนสร้างบ้านบนพื้นทรายที่เขียนไว้ว่า ‘ฐานราก’ หากฝนตกหนัก เจ้าภาพอาจหายไปได้ง่ายๆ

และต้องยอมรับตรงๆ: ธนาคารกลางหรือรัฐบาลใดๆ ก็ไม่นำ USDC หรือ USDT มาเป็นทรัพยากรสำรองทางการเงินอย่างเป็นทางการ — สิ่งสำคัญเหล่านี้ควรทำให้มองเห็นมากขึ้นครับ

การยอมรับระดับโลกคือภาพหลอก?

เราได้ยินตลอดเวลาเกี่ยวกับแนวโน้มสแตบล์คอยน์จะแทนระบบการเงินแบบเดิมในการซื้อขายข้ามชาติ โดยเฉพาะในตลาดเกิดใหม่ที่เงินตรามีเสถียรภาพต่ำ

แต่นั่นมีหมายถึงการแทนที่อำนาจของดอลลาร์หรือเปล่า? อีกไกลครับ

ดอลลาร์ยังคงครอบครองระบบชำระเงินระหว่างประเทศ เพราะมันได้แรงหนุนครอบคลุมจากสถาบัน—not just code. เมื่อคุณไว้วางใจ Federal Reserve (แม้ว่าจะสงสัยนโยบาย) ก็แทบทะเลาะออกจากสมุดเขียนรหัสโปรแกรม

สแตบล์คอยนมีลำโพงแรงมากพอจะสร้างระบบสำรองให้นation ในภาวะฉุกเฉิน? มันแค่อุปกรณ์สำหรับเทรดและคาดเดาเท่านั้นครับ

เวลาไม่มีพลังบำบัดโรค — อีกตอนหนึ่ง

certainly, some say “wait and see.” maybe one day stability will come through regulation, transparency, and global standards. But right now? We’re still in early days—with high volatility hidden behind smooth price charts. One day I saw a whale move $200M across three chains in under 30 seconds—no one questioned it because it was “just a stablecoin transfer.” That should scare us all. If confidence rests so easily on algorithmic promises… then maybe our currency faith is more fragile than we admit.

What Does This Mean for You?

digital financial inclusion isn’t just about access—it’s about trust. And true trust takes years to build… not months through marketing hype. As someone raised between Chicago streets and blockchain forums, I believe technology should serve people—not become their new religion. crypto doesn’t need saviors—it needs honesty. So next time someone says ‘stablecoin = new dollar,’ ask them: Who backs your promise? even algorithms can lie when no one checks them.