Robinhood L2: นวัตกรรมหรือเลียนแบบ Base?

การโจมตีอย่างเงียบๆ ของการซื้อขายหุ้นแบบคริปโต

เริ่มจากเสียงพูดคุยเบาๆ จากนั้นก็เป็นทวีตที่บอกให้ ‘ติดตาม’ เมื่อตอนนี้ทุกคนในวงการคริปโตกำลังจับตาการเปิดตัว L2 สำหรับหุ้นสหรัฐของ Robinhood ที่งาน EthCC โดยไม่ใช่อัปเดตธรรมดาๆ แต่เป็น L2 เต็มรูปแบบสำหรับตลาดหลักทรัพย์อเมริกา หากจำได้ว่า ‘ปฏิวัติหุ้นมีม’ เริ่มจากโพสต์ใน Reddit สิ่งนี้ดูเหมือนกำลังเกิดขึ้นอีกครั้ง—but with more gas fees and fewer coffee shops.

ผมเฝ้า dõiพื้นที่นี้มาตั้งแต่ปี 2019 เมื่อคนสมัยโน้นหัวเราะเมื่อผมบอกว่าบล็อกเชนมันจะพาให้อาจารย์ซื้อหุ้นอนุมูลในเบอร์ลินโดยไม่ผ่าน中间人ได้อย่างไร? ในวันนี้ มันเกิดขึ้นครับ—and Robinhood มีโอกาสเป็นโบรกเกอร์หลักแรกที่ทำมันได้อย่างถูกต้อง

ทำไมสิ่งนี้ไม่ใช่แค่วงจร DeFi อีกแล้ว?

ชัดเจน: เราไม่ได้ว่าถึง NFTs, coin มีมตรงไหนเลย เราพูดถึง การแทนรหัสหุ้น (stock tokenization) —กระบวนการแปลงสินทรัพย์โลกจริง เช่น หุ้น Tesla, Amazon เป็นดิจิตอลบนบล็อกเชนมือถือผ่าน smart contracts.

และใช่, Arbitrum มีแนวโน้มเป็นแก่นกลาง เพราะ EVM compatibility ทำให้ง่ายในการรวมระบบเดิมโดยไม่มีแรงกดดันในการเขียนโค๊ดใหม่หรือเรียนรู้อะไรเพิ่มเติม

แต่นี่คือจุดที่เรื่องสนุก: หาก Robinhood พัฒนา L2 เฉพาะของตนเองบนโครงสร้าง Arbitrum Chains — มันไม่ใช่งานรวมระบบธรรมดา มันคือการควบคุมตนเอง (sovereignty)

พาราดอกซ์ Base: การสร้างสรรค์หรือการเลียนแบบ?

Coinbase เปิด Base ในปลายปี 2023 เป็น Layer-2 เปิดกว้างสำหรับผู้พัฒนา โดยใช้งาน Optimism’s tech stack. มาจนถึงตอนนี้ Base มีโปรเจ็กต์ DeFi และโครงการสินทรัพย์จริงมากกว่าร้อยรายการแล้ว

ตอนนี้มาถึง Robinhood — Ambition เหมือนกันแต่มหาอำนาจของระบบที่ยังไม่มี

คำถามเลยถามออกมา: ไอ้นี่คือการสร้างสรรค์หรือแค่มองตามรอย Base?

ผมขอตอบด้วยข้อมูลจาก Dune Analytics: ในขณะที่ Base มียอด dApps กว่า140+ และ TVL เกิน $850M, ส่วนใหญ่อยู่ใน yield farming และ swap แสดงให้เห็นบางอย่างสำคัญ: อนาคตอาจไม่อยู่ที่ระบบที่เปิดกว้าง—แต่อยู่ที่ระบบที่ปิด เพื่อความไว้วางใจของผู้ใช้งาน

การเล่นแตกต่าง—ทำไมระบบที่ปิดอาจชนะ?

Token Terminal เพิ่งเสนอแนวทางใหม่ว่า Robinhood: พยายามอย่าเชิญผู้พัฒนาภายนอกเข้ามาบนเครือข่ายของตนเองแทนเปล่า; เพียงแค่นำแพลตฟอร์มหลักของเรา—เครื่องซื้อขาย, เวลเล็ตลูกค้า, KYC flow—ไปรวมไว้มอบบน-chain จะสร้างสิ่งที่ผมเรียกว่า Crypto-Native Brokerage: UX เรียบง่ายจาก decentralization โดยควบคุมโดยหน่วยงานเดียว—the brand that users trust.

ลองเทียบ Netflix-on-blockchain กับ YouTube-on-blockchain คนละอารมณ์เลยหนึบหนับเนื๊อนะครับ. One offers curated content; the other invites everyone to upload anything. สำหรับกลุ่มนักลงทุนมาระยะยาวอย่าง Robinhood—who care more about simplicity than protocol design—the former makes way more sense. นอกจากจะควรมองไปไกลกว่านี้? การเข้าซื้อกิจการ Bitstamp ส่งผลให้มี MiFID II compliance ในยุโรป — เป็นขอบเขตทางกฎหมายเหนือ Coinbase โดยเฉพาะนอกแอมเอริกา

สุดยอดความเสี่ยงอะไรอาจเกิดขึ้นคราวหน้า?

during my early days at an exchange algorithm team, I once misjudged volatility during a flash crash—and lost $87k in paper gains because my model assumed linear behavior during panic moments. crypto markets teach hard lessons fast: political risk (SEC rulings), technical debt (poorly designed rollups), and behavioral traps (FOMO-driven launches). two red flags stand out: once they launch their L2, every transaction becomes traceable—not just by regulators but by competitors looking to copy their playbook instantly, something that could erode their moat faster than expected, especially if they go open-source—which nobody knows yet, or if Arbitrum pulls support down the line due to governance disagreements, even though past collaboration suggests stability; it’s still speculative risk, necessary when betting big on infrastructure playbacks.