โทเคนกับหุ้น: เปลี่ยนกฎคริปโต

การเรียกร้องความจริง: จากแรงฮype ICO สู่การออกแบบแบบเน้นเชーン

2017 ดูเหมือนตะวันตกของโลกคริปโต เรานำเสนอโทเคนเหมือนหุ้นส่วนแบ่งผลกำไร แล้วมาถึง SEC กับการทดสอบ Howey เจ้าโทเคนทั้งหมดกลายเป็นหลักทรัพย์ไปในพริบตา ผมเคยเห็นสตาร์ทอัพเลิกขายโทเคนสาธารณะไปขายหุ้นเอกชนเพียงเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบ แต่ข้อขัดแย้งคือ เราเสียความเป็นกลางเชิงโครงสร้างเพื่อให้เข้ากับกฎหมาย

มูลค่าบนสายโซ่ ≠ การควบคุมนอกสายโซ่

แนวคิดใหม่นี้ไม่ใช่เรื่องใหม่แต่ตอนนี้กำลังได้รับการยอมรับ: โทเคนควรครอบครองสิ่งที่อยู่บนสายโซ่; หุ้นควรครอบครองสิ่งที่อยู่นอกสายโซ่

ไม่ใช่แค่มุมมองทางภาษาเท่านั้น แต่มันคือตรรกะทางสถาปัตยกรรม เมื่อเราเผาค่าธรรมเนียมผ่าน EIP-1559 หรือนำผลตอบแทนจาก DeFi มาลงในคลังเงินสดแบบ on-chain เราสร้างสิทธิเศรษฐกิจที่แนบแน่นกับโค้ด—not กับเอกสารที่ประกาศโดยทีมงาน เหล่านี้ไม่ใช่หลักทรัพย์—they เป็นใบสำคัญในการครอบครองโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล

เปรียบเทียบกับ FTT และโทเค็นอื่น ๆ ที่ขึ้นอยู่กับบริษัทแม่ หากบริษัทนั้นคราวตาย มูลค่าของโทเค็นก็หายไปเลย—ไม่มีการเป็นเจ้าของจริง เพียงแค่อยู่ภายใต้อาณัติตอนเดียวเท่านั้น

กับดัก DAO และเหตุผลทำไมการปกครองแบบจำกัดจึงชนะ

เราถูกบอกว่าการปกครองผ่านโหวตโทเค็นคือเส้นทางแห่งความเป็นกลาง เช่นเดียวกัน คนจำนวนมากไม่อยากสนใจเรื่องปรับปรุงโมเดลเสี่ยงหรือกำหนดโมเดลค่าธรรมเนียม cผมเคยวิเคราะห์ DAO ใหญ่ๆ 20 อัน มีเพียง3%ของผู้ถือเหรียญเข้าร่วมในการตัดสินใจสำคัญ ส่วนใหญ่อยู่เฉยรอให้มูลค่าขึ้นคราวหนึ่ง—ไม่มีบทบาทในการวางนโยบาย cทำไมเราถึงบังคับให้มีการตัดสินใจร่วมเมื่อระบบอัตโนมัติดูแลได้อย่างดีกว่า? เข้ามาแล้ว ‘มนุษย์อยู่ปลายทาง’ —ใช้งานการปกครองเฉพาะเมื่อมีเหตุฉุกเฉิน เช่น การอัปเกรดฉุกเฉินหรือแจกเงินจากรายได้ออนไลน์ เครื่องมือเช่น BORG และ Wyoming DUNA พозвันให้วางโครงสร้างกฎหมายได้ว่าผู้ถือโทเค็นมีภาระจำกัดและอำนาจตามกฎหมายจริง —จบปัญหาฟ้องร้องเพราะใครเป็นเจ้าของอะไร c

กรอบเดียว: เหรียญเดียว, ไม่มีหุ้นมายืนเหนียง?

cบางผู้สร้างเลือกลำเลียงแนวทางเดียว: พฤติกกรรมใดๆ, มีแค่อนาคมซ้อนตรงไหน; เพียงโปรโต콜บนโซ่อันหนึ่ง Morpho เป็นหนึ่งในผู้นำ เพราะพวกเขาไม่ง่ายเกินไปแต่วางแผนชัดเจนมามากกว่า cโมเดลของเขา? เอกชน nonprofit (เช่น DUNA) เปิดโปรโตคอย่างสมบูรณ์ และมอบอำนาจเต็มในวันแรก จากนั้นมาร่วมงานในฐานะผู้ให้บริการตามสัญญา —แต่มaintain ownership ในระดับ on-chain cไม่มีประชุม IR, no cap table เศษซาก vesting cliffs cแค่มีโค๊ดสะอาดและแรงจูงใจชัดเจน: จำนวนผู้ใช้งานมากเท่าไร มูลค่าจะสะสมโดยตรงให้แก่องค์กรถือเหรียญตลอดเวลา —โดยไม่อ่อนแรงจากผลประโยชน์บริษัท ccแต่อย่าเอาแบบจำลอง FTT มาทำซ้ำ หากมูลค่าวางอยู่บนการทำงานศูนย์กลาง—ตรงจุดหมายของการดำเนินงาน จะกลายเป็นหลักทรัพย์แฝง—and SEC เข้าใจเรื่องเหล่านี้มากกว่ายังไง